จากตัวเลขจำนวน SME ที่ปิดกิจการลงถูกเผยออกมาในปี 2564 มีตัวเลขที่สูงขึ้นจากปีก่อนๆ มาก และมีหลายกิจการที่แม้จะว่าจะดำเนินอยู่ก็ฝืดเคืองเต็มทน เพราะต่างก็ได้รับผลกระทบไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม เราจึงนำเสนอ 5 วิธีที่จะช่วยประคับประคองธุรกิจของคุณให้อยู่รอดผ่านไปได้ แม้ในยุควิกฤตเศรษฐกิจ

1. ลดต้นทุน 

   เงินจำนวนเล็กน้อยเมื่อนำมารวมกันก็กลายเป็นเงินก้อนใหญ่ขึ้น ดังนั้นจึงไม่ควรมองข้ามรายจ่ายเล็กน้อยที่สามารถลดลงได้ เช่น กระดาษ หมึกพิมพ์ ที่สามารถใช้วิกฤตครั้งนี้ปลูกฝัง Paperless Culture เข้าไปในองค์กร แถมยังมีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ในส่วนต้นทุนวัตุดิบที่ไม่สามารถหยุดใช้ได้ เนื่องจากสินค้าหลายชนิดมีการขึ้นราคาสูงขึ้นมาก หากไม่สามารถตัดขาดได้ลองพิจารณาถึงสิ่งทดแทน เพื่อมาช่วยลดต้นทุนลง และการให้พนักงานทำงานที่บ้าน WFH ก็เป็นส่วนช่วยลดต้นทุนทั้งค่าใช้จ่ายของบริษัท และค่าใช้จ่ายการเดินทางของพนักงานเอง การให้พนักงานมาทำงานที่ออฟฟิศในยุคโควิท ผู้ประกอบการต้องแบกรับทั้ง ค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาด อุปกรณ์ฆ่าเชื้อ ที่เพิ่มขึ้นจากแต่ก่อน และที่ตรวจโควิทแบบ ATK ของพนักงานที่ใช้แล้วหมดไป การแก้ปัญหาที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย อย่างการทำงานที่บ้าน WFH เป็นตัวช่วยที่ดีในการพาธุรกิจพ้นวิกฤต

2. มีระบบ 

   WFH มีข้อดีมากมาย แต่ควบคุมการทำงานของพนักงานได้ไม่ดีเท่าการให้พนักงานมาทำงานที่สำนักงาน การใช้ตัวช่วยอย่าง Anywork Platform Online ที่ช่วยบริหารจัดการธุรกิจ ให้พนักงานทำงานร่วมกันได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน และเจ้าของกิจการสามารถ Monitor ทุกความเคลื่อนไหวของคนในองค์กร ในส่วนของค่าบริการก็ถูกกว่าการจ้างพนักงาน 1 คนเข้ามาดูแลระบบ เช่น แพคเกจค่าบริการ 2,490 บาทต่อเดือนสามารถให้พนักงานเข้าใช้ได้ถึง 20 คน เทียบกับการจ้างฝ่ายไอทีมาสร้างและดูแลระบบเอง อย่างน้อยต้องเติม 0 เพิ่มเข้าไปอีก 1 ตัวต่อคนต่อเดือนและคนเดียวอาจไม่พอ ดังนั้นการใช้ระบบสำเร็จรูปช่วยประหยัดทั้งเวลาและต้นทุนขององค์กรคุณได้มาก

   การทำงานโดยมีระบบเป็นสื่อกลางนั้น ดีกว่าการใช้แอพพลิเคชั่นแชท อย่างไลน์กลุ่มในการคุยกัน เพราะการทำงาน ไม่ใช่การคุยเล่น หรือสิ่งที่จะใช้ร่วมกับเรื่องส่วนตัว ควรแยกออกจากกันให้ชัดเจน และที่สำคัญควรตรวจสอบได้ Anywork จึงตอบโจทย์ระบบการทำงาน ทำงานอะไรก็ได้ทุกที่ทุกเวลา ประหยัด ใช้งานง่าย เปิดได้ทุกอุปกรณ์ และเป็นเหมือนเสื้อชูชีพของ SME ให้สามารถลอยตัวอยู่เหนือน้ำได้แม้ในช่วงเวลาที่พายุโหมกระหน่ำในมหาสมุทร

3. กำจัดต้นทุนคงที่

   เมื่อให้พนักงานที่บ้าน สำนักงานที่ใหญ่โตก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป เมื่อขนาดพื้นที่ลดลง ค่าเช่าก็ลดลงไปด้วย การลดต้นทุนคงที่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก รายจ่ายคงที่ไม่ว่าจะมีรายได้หรือไม่มีก็ต้องจ่าย เป็นเหมือนไขมันส่วนเกินท่ีต้องกำจัดและสกัดให้เหลือแค่ส่วนที่เป็นเนื้อโปรตีน หรือส่วนที่จำเป็นนั่นเอง ได้เวลาลิสรายการต้นทุนคงที่และออกแบบปรับเปลี่ยนให้เข้ากับธุรกิจของคุณ

4. Risk-reward Ratio

   การประเมินความเสี่ยงของผลตอบแทนที่ได้และโอกาสขาดทุน เป็นเรื่องที่ควรประเมิน เมื่อต้นทุนสูงขึ้นกำไรลดลง การเข้าเสี่ยงรับบางโปรเจคอาจได้ไม่คุ้มเสีย เมื่อถึงคราววิกฤต ควรเลือกเข้ารับงานบางโอกาส และตัดบางงานออกไป เพื่อลดโอกาสที่จะเสียให้ได้มากที่สุด แต่หากครั้งใดประเมินแล้วว่า โอกาสในการกำไรนั้นมีมาก โอกาสขาดทุนมีน้อย ก็จงทำให้เต็มกำลังความสามารถ กำไรสะสม บวกกับความไม่ฟุ้มเฟือยที่พูดถึงก่อนหน้า จะเป็นสิ่งที่อุ้มชูธุรกิจคุณให้ผ่านพ้นช่วงเวลายากลำบากไปได้

5. บริหารจัดการภาษี

   ภาษีถือเป็นต้นทุนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การประเมินล่วงหน้า วางแผนรายเดือน รายปี อย่างรอบคอบ อาจช่วยให้คุณจ่ายภาษีอย่างสมเหตุสมผล

ติดตามบทความดีๆ เกี่ยวกับการพัฒนาธุรกิจได้ที่ Anywork.co.th

"เราคือโปรแกรมบริหารจัดการภายในองค์กร ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิผลให้แก่ธุรกิจคุณทั้งทางตรงและทางอ้อม"